ปีนฟูจิ ภูเขาอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ทั้งในด้านความสูง และด้านวัฒนธรรม
ภูเขาไฟ ที่เป็นหนึ่งในความฝันของใครหลายคน
บ้างก็อยากจะได้เห็น
บ้างก็อยากจะได้ปีนขึ้นสู่ยอด
ภูเขาไฟฟูจิมีความสูงอยู่ที่ 3,776 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งถือว่ามีความสูงมากที่สุดขจองประเทศญี่ปุ่น สูงมากเมื่อเทียบกับภูเขาในประเทศไทยที่มีดอยอินทนนท์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 2,600 เมตร
ภูเขาไฟฟูจิจะเปิดให้ปีนได้ปีละประมาณ 2 เดือนเท่านั้น ก็คือช่วงประมาณเดือนก.ค.-ส.ค. ซึ่งตรงกับช่วงฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่น
ถ้าใครที่เคยมาประเทศญี่ปุ่นในช่วงนั้น จะทราบกันดีว่าอุณหภูมินั้นราวนรกมาก ร้อนจนแทบจะเป็นลม บ้างก็ว่ากันว่าหน้าร้อนญี่ปุ่นนั้นทรหดกว่าหน้าร้อนไทย ซึ่งก็อาจไม่ได้เกินจริง เพราะก็มีวันที่อุณหภูมิเกิน 40 องศาบ่อยอยู่ บวกกับการที่หน้าร้อนของญี่ปุ่นนั้นมีความชื้นในอากาศเยอะ ทำให้เหมือนอยู่ในซาวน่า ร้อนอบอ้าวมากขึ้นไปอีก
สิ่งที่อยากจะบอกตรงนี้ก็คือ
ถึงแม้ว่าด้านล่างนั้นร้อนตับแตกเช่นไร ด้านบนยอดฟูจิที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 3,776 เมตรนั้นก็มีอุณหภูมิประมาณ 0 องศา
หนาวมาก เมื่อเทียบกับด้านล่าง
ปีนฟูจิ นี้มีสิ่งที่ลำบากอยู่ไม่กี่ข้อ
ก่อนอื่นเลยคือความหนาว
เนื่องจากอุณหภูมิมีความต่างจากด้านล่างมากๆ บางคนอาจเตรียมเสื้อผ้าไปไม่พร้อมทำให้เกิดหนาวมากตอนเดินขึ้นด้านบนได้
ต่อมาคือเรื่องสภาพอากาศ
ธรรมชาติโดยปกติอยู่แล้วของภูเขาก็คืออากาศจะเปลี่ยนแปลงได้ง่ายมาก ตอนเริ่มเดินอาจเห็นฟ้าสีฟ้าสวยงามอยู่ดีๆ เดินไปได้สักไม่กี่ชั่วโมงฝนตกลมแรงราวกับพายุ ฉะนั้น อุปกรณ์อย่างเช่น เสื้อ-กางเกง รองเท้า และกระเป๋า ต้องสามารถกันฝนไว้ได้เป็นอย่างดี ถึงแม้พยากรณ์จะบอกว่าฝนไม่ตกก็เถิด เรื่องฝนตกบนภูเขานี้เดายากมากๆ ถ้าไม่เตรียมไป ตัวเปียก เท้าเปียก ของในกระเป๋าเปียก นอกจากจะหมดสนุกแล้ว โอกาสที่จะเกิดอันตรายต่อชีวิตก็มี
อีกเรื่องก็คือเรื่องความสูง
การที่จะเกิดอาการ Altitude sickness หรือการขาดอากาศเมื่ออยู่ในพื้นที่ที่ออกซิเจนเบาบาง จากที่เราเองเคยไปเดินมาแล้ว จะรู้สึกถึงความอากาศบางจริงๆจังๆเลยก็คือหลังจากที่เดินขึ้นเลยจุด 2,800 เมตรขึ้นไปแล้ว แต่ตามหลักการ เหมือนว่าตั้งแต่ประมาณจุด 2,000-2,500 เมตรขึ้นไป ก็เริ่มถือว่าเป็นจุดที่มีออกซิเจนเบาบางแล้วเหมือนกัน การป้องกันก็คือ
-พยายามเดินช้าๆ ห้ามให้เกิดความรู้สึกต้องหายใจเร็ว
-หายใจเข้าให้ลึกๆ และที่สำคัญ ปล่อยลมหายใจออกให้หมด
-ดื่มน้ำบ่อยๆ ถ้าเหนื่อยก็พัก
แค่นี้เท่านั้น ใครที่ดื้อ วิ่งเล่นไม่สนใจ อาจมีโอกาสได้นอนอ้วกอยู่บนฟูจิเลยก็เป็นได้
ปีนฟูจิ เริ่มจากไหนดี?
ปีนฟูจิ ควรเริ่มจากจุดไหนดี เป็นหนึ่งในคำถามที่หลายๆคนสงสัย
รูทเดินฟูจิมีอยู่หลายรูทมาก แต่รูทเดินที่นิยมและเดินง่ายที่สุด ก็คือรูท Yoshida ที่จะเริ่มเดินจากฟูจิชั้น 5 จากจุดจอดรถ Subaru Line ที่คนทั่วไปที่ไม่ได้มาปีนเขาก็สามารถมาได้เหมือนกัน เป็นจุดที่สูงที่สุดบนฟูจิที่รถสามารถขึ้นมาได้
https://fujisan-climb.jp/en/trails/index.html
ซึ่งจะแยกกันระหว่างทางเดินขึ้น และทางเดินลง เนื่องจากทางเดินขาขั้นนั้น มีบางช่วงที่ทางเดินแคบ ถ้าเกิดต้องเดินขึ้น-ลง ในทางเดียวนั้น จะทำให้เดินกันไม่ได้ เลยแยกทางเดินกัน
ภูเขาไฟฟูจินั้น ชาวญี่ปุ่นเขานับถือกันว่าเป็นพระเจ้าด้วย ซึ่งในสมัยก่อนก็เคยมีเหมือนกับลัทธิที่ศรัทธาในภูเขาไฟฟูจิจริงๆจังๆอยู่ ซึ่งตอนนี้ความเชื่อนั้นก็ยังมีอยู่เหมือนกัน ก็ทำให้ในด้านบนของฟูจินั้น ถือได้ว่าเป็นศาลเจ้าด้วย ก็จะมีเสาโทริอิรอต้อนรับผู้เดิน บรรยากาศขลังมาก
ซึ่งบอกไว้ก่อน ว่าตอนเดินลงเป็นอะไรที่น่าเบื่อและทรมานมาก เพราะทางเดินเป็นทางกรวด และอากาศจะค่อยๆร้อนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งเหนื่อยทั้งร้อนทั้งน่าเบื่อ เป็นช่วงวัดใจอยู่เหมือนกัน
มีคำๆหนึ่งที่เราจะชอบท่องเอาไว้ตลอดก็คือ “การเดินเขา(่เดินป่า)ที่ดีนั้น รวมถึงการเดินทางถึงบ้านอย่างปลอดภัยด้วย”
เราไม่สามารถเสียสมาธิได้ตลอดเวลาจนกว่าจะถึงบ้านอย่างปลอดภัย
ส่วนมาก อุบัติเหตุที่เกิดจากการเดินเขาเดินป่านั้น จะเกิดในระหว่างตอนเดินลง ยิ่งช่วงที่เดินสบายๆและกำลังเบื่อ ตอนนั้นคือช่วงที่อันตรายที่สุด ต้องมีสมาธิกันมากๆไว้นะครับ
ปีนฟูจิ ถึงยอดแล้ว บรรยากาศเป็นยังไงบ้าง
ถ้าเป็นช่วงพีคๆ ข้างบนยอดนี่คนเยอะเหมือนอยู่ในสวนสาธารณะใกล้ๆบ้านเลย คนเยอะจริงๆ แต่เป็นความคนเยอะที่รู้สึกดี อาจเพราะอุณหภูมิที่ต่างกับด้านล่างเยอะมาก ทำให้เรามีความรู้สึกเหมือนกับว่าได้ขึ้นมาอยู่บนอีกโลกหนึ่งเลย
ซึ่งด้านบนก็จะมีร้านขายของกิน ขายของฝาก ราคาแต่ละอย่างไม่เบาเลย ถ้าแรงเยอะ แนะนำให้ถือน้ำขึ้นมาเผื่อไว้ก็ได้ครับ ไม่อย่างนั้นเสียเงินอีกเยอะแน่ๆด้านบน
และไฮไลท์ของการปีนฟูจิ อยู่ที่การชมแสงแรกบนยอด
ถ้าเราเดินทางรูท Yoshida จุดที่เราเดินถึงยอดนั้นยังไม่ถือว่าเป็นจุดที่มีความสูง 3,776 เมตร จุดที่สูงที่สุดนั้นอยู่อีกฝั่งของปล่องภูเขาไฟ หลังจากที่เดินขึ้นมาถึงยอดแล้ว ก็ต้องเดินอีกประมาณ 30 นาที ถึงจะถึงตรงจุดที่เรียกได้ว่าเป็นจุดที่สูงที่สุดของประเทศญี่ปุ่น
ทุกคน ก็ต้องการจะมาชมแสงแรกกันตรงจุดนี้
แต่ถ้าเราเดินไปถึงจุดสูงสุดไม่ทัน ก็มีหลายจุดที่สามรถเห็นแสงแรกได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ประมาณชั้น 8 ก็สามารถเห็นแสงแรกสวยๆได้ พอชมเสร็จค่อยเดินไปที่จุด 3,776 เมตรก็ยังทัน
ใครมีโอกาส แนะนำ ลองไปเดินกันสักครั้งครับ บรรยากาศไม่เหมือนกับเขาอื่นๆจริงๆ อาจไม่ได้มีความสวยธรรมชาติ ทางเดินไม่ได้สวยงามมากมาย เดินก็ไม่ง่ายเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้ยากเกิน แต่ยังไง ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่คนที่ชอบเดินเขาเดินป่าน่าจะลองไปกันสักครั้งครับ
ปีนฟูจิ ถ้าใครไม่มีเพื่อนไป ไปกับ KYU CAMP ก็ได้นะครับ เรามีจัดทริปอยู่ทุกๆปี
สามารถติดตามกันทางหน้าเว็บ หรือหน้าเพจ facebook ได้เลยครับ