เกิดมาเป็นคนเมืองร้อนอย่างเรา คงมีสักครั้งในชีวิตที่อยากไปสัมผัสกับความหนาวสุดขั้วถึงขั้นติดลบ ลองไป ฮอกไกโดตะวันออก ดูไหม
ที่ฮอกไกโดมีเมืองหนึ่งที่อาจไม่ได้เป็นที่รู้จักกันมากเท่าไหร่ เมืองที่จะพูดถึงในครั้งนี้ชื่อว่าเมือง “Toyokoro” เป็นเมืองที่อยู่ในโซน ฮอกไกโดตะวันออก อยู่ห่างออกไปทางฝั่งตะวันออกของเมืองซัปโปโร
เมืองหลักของฮอกไกโดคือเมือง “ซัปโปโร” เป็นเมืองใหญ่ที่เจริญไม่แพ้โตเกียวหรือโอซาก้าเลย มีที่ให้ช้อปปิ้งเยอะแยะมากมาย ไม่ได้มีแค่ธรรมชาติอย่างเดียว ซึ่งในเมืองซัปโปโรช่วงฤดูหนาวหิมะจะตกเยอะ และอุณหภูมิก็ต่ำถึงติดลบเกิน 10 องศาฯ
จากซัปโปโรเลียบทะเลไปทางฝั่งตะวันออก เราจะได้พบกับเมือง Toyokoro เมืองเล็กๆติดทะเล ตั้งอยู่ในโซนที่เรียกว่า “Tokachi” ที่มีชื่อเสียงตรงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และมีความเป็นชนบทแบบญี่ปุ่นๆ ไม่มีห้าง ไม่มีสิ่งบันเทิงหรือสถานที่เที่ยวดังๆสักเท่าไหร่ ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นหนึ่งในเสน่ห์ของ ฮอกไกโดตะวันออก และเมืองรอบๆโซนนี้
และเมือง Toyokoro นี้ ก็เป็นเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยไม่เยอะมากเท่าไหร่ด้วย โดยจากสถิติของทางเว็บไซท์อย่างเป็นทางการของเมือง มีผู้อยู่อาศัยในเมืองเพียงประมาณ 3000 คนเท่านั้นเอง ทำให้เราจะได้เจอกับพื้นที่โล่งๆ ความเงียบแต่ไม่เหงา ได้รับบรรยากาศความเป็นชนบทญี่ปุ่นไปเต็มๆ
ในโซนนี้เป็นโซนที่นักท่องเที่ยวจากหลากแห่ง เดินทางมาหาธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และสงบ ด้วยการที่ไม่ได้เป็นเมืองใหญ่ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวเยอะมากเท่าไหร่เลยทำให้นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านมากเกินไป ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวอย่างเช่นช่วง เทศกาลหิมะ ของเมืองซัปโปโร ในแถบนี้ก็ไม่ได้มีคนเดินทางมาเที่ยวกันมากเท่าไหร่นัก
สิ่งที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของเมืองนี้เลย ก็คงต้องเป็น Jewelry Ice ที่ริมทะเล “น้ำแข็งอัญมณี” นี้เกิดจากการที่น้ำทะเลแข็งตัว และถูกคลื่นซัดจนกลายเป็นรูปทรงแปลกๆอย่างที่เห็น เราสามารถพบน้ำแข็งอัญมณีนี้แค่เพียงช่วงที่ฤดูหนาวที่สุดเท่านั้น คือประมาณช่วงปลายเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ถ้าเกิดมาเร็วเกินไป ก็อาจเห็นได้ไม่เยอะ หรืออาจต้องเดินไปจนสุดขอบชายหาดเพื่อชมเจ้า Jewelry Ice นี้ เพราะหนาวไม่พอ เลยทำให้น้ำนั้นแข็งไม่ทั่วชายหาด
ถ้ามีโอกาสได้ไปถึงช่วงเช้า ก็อาจได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นจากปลายขอบฟ้าส่องแสงสะท้อนกับก้อนน้ำแข็งสวยงามเลยทีเดียว แต่ขอบอกว่าหนาวมาก และเนื่องจากอยู่ริมทะเลเลยทำให้ลมแรงเป็นพิเศษ บวกกับอุณหภูมิที่ต่ำถึงประมาณลบ20องศาฯ ถ้าใครเตรียมเสื้อผ้าไปไม่ดี ไม่แน่อาจไม่ได้ลงจากรถเลยก็เป็นได้ หรืออาจไม่ได้รอเห็นพระอาทิตย์ขึ้นก็ได้
อีกแห่งที่เราชอบมากคือต้นไม้ Harunire เป็นต้นไม้สูงประมาณ 17 เมตร ที่โตอยู่เดียวดายท่ามกลางทุ่งหญ้า และถ้าไปในช่วงฤดูหนาว รอบๆต้นไม้ก็จะเป็นหิมะอย่างที่เห็น เป็นวิวที่สามารถอธิบายถึงความสงบของเมืองนี้ได้เป็นอย่างดีเลย
ที่บอกว่าเป็นต้นไม้ที่อยู่เดียวดายนั้น ก็อาจเป็นคำอธิบายที่ไม่ได้ถูกต้องเท่าไหร่ เพราะแท้จริงแล้วต้นไม้ Harunire นี้ เป็นต้นไม้ 2 ต้น ที่อยู่ข้างๆกัน และได้โตขึ้นมาตัวติดกันจนกลายมาเป็นต้นไม้ทรงอย่างที่เห็นอยู่นี้มาถึง 140 ปี ด้วยเหตุผลที่ว่ามานี้ ทำให้ต้นไม้ 2 ต้นนี้ เป็นราวกับสัญลักษณ์ของคู่รักที่รักกันยาวนาน ไม่ว่าจะผ่านร้อนผ่านหนาวมาเท่าไหร่ก็ตาม ก็ยังยืนอยู่คู่กัน
จากโลเคชั่นและเรื่องราวของต้นไม้นี้ ทำให้เป็นสถานที่หนึ่งที่ช่างภาพจากทั่วโลก อยากจะเดินทางมาถ่ายรูปกัน ถ้าเป็นไปได้ อยากถ่ายทั้งตอนฤดูหนาวและฤดูร้อน จะได้ภาพที่อารมณ์ต่างกัน หรือถ้ามีเวลามาถ่ายตอนกลางคืน พร้อมกับดาว หรือตอนเช้าพร้อมพระอาทิตย์ขึ้นก็ได้อีก เป็นมุมที่คนชอบถ่ายรูปน่าจะสนุกสนานกันได้นานอยู่ทีเดียว
ตอนที่เราได้เดินทางไปหาต้นไม้นี้กัน ก็พอมีนักท่องเที่ยวเดินทางกันมาบ้าง ตอนนั้นนอกจากเราก็น่าจะมีอีก 2 กลุ่ม ที่เดินทางมาชมต้นไม้ โดยทุกคนก็มากันเงียบๆ ราวกับเกรงใจ ถึงความสงบของเมืองนี้ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน ถึงความสงบในช่วงหน้าหนาวของเมืองนี้ มันทำให้เรารู้สึกว่า ไม่อยากจะส่งเสียงดังไปรบกวนธรรมชาติ ราวกลับว่ากลัวเขาจะตื่นกัน
รู้สึกอย่างนั้นจริงๆนะ
อาจเพราะความหนาวด้วย ที่ทำให้เรารู้สึกอย่างนั้น คล้ายกับว่า ความหนาวได้ดูดเสียงรอบๆข้างตัวเราไปหมด เหลือแต่เสียงที่ธรรมชาติอยากให้เราได้ยิน เสียงคลื่นที่ทะเลก็ได้ยินชัด เสียงหายใจของเราเองก็ได้ยินชัด เสียงนกที่ร้องก็ก้องกังวาล เสียงรองเท้าที่เหยียบย่ำพื้นก็ดังเข้าถึงหู
เป็นประสบการณ์ที่ รู้สึกว่าอธิบายให้เข้าใจได้ยากอยู่ เพราะมันไม่ได้เกิดกับคนในเมืองร้อนอย่างเราทุกวัน
คราวหน้า จะพาทุกคนไปรู้จักกับ ที่พักแนวเอาท์ดอร์ ที่เราจะได้พักท่ามกลางธรรมชาติ และหิมะได้ ซึ่งอยู่โซนใกล้ๆกันกับเมือง Toyokoro ที่ได้แนะนำให้รู้จักกันไปแล้วในครั้งนี้ เป็นบ้านพักแนว Cottage ที่บางครั้ง เราอาจไม่ชินกันเท่าไหร่ สำหรับคนที่ปกติชอบนอนโรงแรมทั่วๆไป เพราะอาจไม่มีทีวีในห้องส่วนตัว แต่มีให้ห้องส่วนกลางแทน ไม่มีห้องอาบน้ำในห้องส่วนตัว แต่จะมีห้องอาบน้ำชั้นละห้อง แบ่งเวลากับคนในกลุ่มกัน ถือว่าทำให้เราได้ใกล้ชิดกับเพื่อนๆเรา ที่เราได้พาไปพักที่นี่มากขึ้นด้วย
และที่สำคัญ บรรยากาศดีมาก ทั้งในช่วงฤดูร้อน หรือฤดูหนาว ที่เราไปกันมาเป็นฤดูหนาว ที่อากาศหนาวมาก และหิมะก็เยอะอยู่ทีเดียว (ปกติโซนนี้หิมะตกไม่หนาเท่าไหร่) เราสามารถออกมานั่งทานอะไรกันหน้าบ้านก็ได้ ถ้าเกิดว่าทนหนาวกันไหว หรือว่าแค่ออกมาเดินชมดาวก็ได้ เพราะว่าดาวในช่วงหน้าหนาวของที่นี่นั้น สวยจนถึงขนาดเขาต้องทำการจัด workshop ชมดาวไปจิบไวน์ไปกันเลยทีเดียว
เมือง Toyokoro ถือว่าเป็นเมืองที่ไม่ได้มีสถานที่เที่ยวที่โด่งดังอะไรมากมายขนาดนั้น เป็นเมืองที่สงบและมีกลิ่นอายของความเป็นชนบทแบบญี่ปุ่นครบรส ใครที่ชอบเที่ยวชนบทหรือธรรมชาติของญี่ปุ่น เมืองนี้เป็นอีกหนึ่งเมืองที่อยากแนะนำให้ลองไปกัน
ส่วน KYU CAMP ก็มีพาไปเมืองนี้ในทริป [East Hokkaido Outdoor Trip 5วัน4คืน] ซึ่งเป็นทริป ที่เราจะพาไปดื่มด่ำกับธรรมชาติของฤดูหนาว ที่ ฮอกไกโดตะวันออก แม้เป็นฤดูหนาว เราก็มีพาไปนอนที่บ้านพักสไตล์ Cottage และพาไปตกปลาบนทะเลสาบที่แข็งเป็นน้ำแข็งด้วยนะ!!
HP เมือง Toyokoro : http://www.toyokoro.jp/